ประวัติ ของ ทากาโนะ โนะ นีงาซะ

ทากาโนะ โนะ นีงาซะ เป็นธิดาของยามาโตะ โนะ โอโตสึงุ (ญี่ปุ่น: 和乙継 โรมาจิYamato no Ototsugu) ที่ต่อมาได้เข้าเป็นนางห้ามในเจ้าชายชิรากาเบะ (ญี่ปุ่น: 白壁王 โรมาจิShirakabe-ō)[2] พระราชนัดดาในจักรพรรดิเท็งจิ มีพระโอรส-ธิดาสามพระองค์คือ

  1. เจ้าหญิงโนโตะ (ญี่ปุ่น: 能登内親王 โรมาจิNoto Naishinnō; พ.ศ. 1276—1324) เสกสมรสกับเจ้าชายอิชิฮาระ (ญี่ปุ่น: 市原王 โรมาจิIchihara-ō)
  2. เจ้าชายยามาเบะ (ญี่ปุ่น: 山部王 โรมาจิYamabe-ō; พ.ศ. 1280 — 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1349) ต่อมาได้เถลิงราชสมบัติเป็น จักรพรรดิคัมมุ (ญี่ปุ่น: 桓武天皇 โรมาจิKanmu-tennō)
  3. เจ้าชายซาวาระ (ญี่ปุ่น: 早良親王 โรมาจิSawara Shinnō; พ.ศ. 1293 — 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 1328) หลังสิ้นพระชนม์ได้รับการสถาปนาเป็น จักรพรรดิซูโด (ญี่ปุ่น: 崇道天皇 โรมาจิSudō-tennō)

แต่เจ้าชายชิรากาเบะ มีพระชายาเอกคือเจ้าหญิงอิโนเอะ (井上内親王) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชมุ ที่เสกสมรสเมื่อปี พ.ศ. 1287 ครั้นจักรพรรดินีโคเก็งสวรรคตในปี พ.ศ. 1313 เจ้าชายชิรากาเบะจึงสืบราชสมบัติเป็น จักรพรรดิโคนิง และตั้งเจ้าชายโอซาเบะ (他戸親王) พระราชโอรสที่ประสูติแต่พระชายาเอกรั้งตำแหน่งรัชทายาท เจ้าหญิงอิโนเอะจึงเป็นอัครมเหสีด้วยเป็นพระมารดาองค์ยุพราช

สองปีต่อมาหลังการตั้งองค์รัชทายาท พระสนมนีงาซะถูกกล่าวหาว่าสาปแช่งองค์พระจักรพรรดิ ส่งผลให้ผู้สืบสันดานของเธอถูกตัดออกจากการสืบราชบัลลังก์ แต่การกลับกันหลังการทิวงคตขององค์ยุพราช เจ้าชายยามาเบะพระราชโอรสที่ประสูติแต่พระสนมนีงาซะได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท[3] และขึ้นครองราชบัลลังก์เป็น จักรพรรดิคัมมุ ในเวลาต่อมา[4]